เมนู

อรรถกถาวิฬารสูตรที่ 10



ในวิฬารสูตรที่ 10 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สนฺธิ ในคำว่า สนฺธิสมลสงฺกติเร ได้แก่ที่ต่อแห่งเรือน
ทั้งสอง. บทว่า สมลา ได้แก่ทางเป็นที่ออกของคูถ จากบ้าน. บทว่า
สงฺกติเร ได้แก่ที่ทิ้งหยากเยื่อ. บทว่า มุทุมูสึ ได้แก่หนูอ่อน. บทว่า
วุฏฺฐานํ ปญฺญายติ ได้แก่การแสดงย่อมปรากฏ.

11. ปฐมสิคาลสูตร



ว่าด้วยเรื่องสุนัขจิ้งจอก



[683] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอได้ฟังเรื่องพระสุนัขจิ้งจอกผู้อยู่ใน
ปัจจุสสมัยแห่งราตรีแล้วมิใช่หรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ได้ฟังมาแล้ว พระเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สุนัขจิ้งจอกแก่นี้แล เป็นโรคเรื้อน มัน
อยากจะไปทางไหนก็ไปทางนั้น อยากจะยืนที่ไหน ๆ ก็ยืนที่นั่น อยาก
จะนั่งที่ไหนก็นั่งที่นั่น อยากจะนอกที่ไหนก็นอนที่นั่น ลมเย็น ๆ ย่อม
รำเพยให้มัน.
[684] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้
ผู้ปฏิญาณว่าเป็นศากยบุตร ได้เสวยการได้เฉพาะซึ่งอัตภาพแม้เห็นปานนี้
เป็นการดีนักหนา เพราะเหตุดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เรา

จักเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้
แหละ.
จบปฐมสิคาลสูตรที่ 11

อรรถกถาปฐมสิคาลสูตรที่ 11



ในปฐมสิคาลสูตรที่ 11 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า เยน เยน อิจฺฉติ ท่านแสดงว่าสุนัขจิ้งจอกแก่ตัวนั้น
ย่อมมีใจแจ่มใสเป็นระยะ ๆ ด้วยการใช้อิริยาบถ และด้วยลมเย็นโชยชาย
ให้มันในที่ที่มันปรารถนา. คำว่า สกฺยปุตฺติยปฏิญฺโญ นี้ ท่านกล่าว
หมายถึงพระเทวทัต พระเทวทัตนั้นจักมีใจแจ่มใสถึงเพียงนี้ ในอัตภาพ
ที่จักมาข้างหน้า.
จบอรรถกถาปฐมสิคาลสูตรที่ 11

12. ทุติยสิคาลสูตร



ว่าด้วยเรื่องสุนัขจิ้งจอก



[685] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอได้ฟังเรื่องของสุนัขจิ้งจอกผู้อยู่ในปัจจุสสมัย
แห่งราตรีแล้วมิใช่หรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ได้ฟังแล้ว พระเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกตัญญูบางอย่าง ความกตเวทีบาง
อย่าง พึงมีในสุนัขจิ้งจอกแก่นั้น แต่ความกตัญญูบางอย่าง ความกตเวที